ระบบการขนส่ง
ผู้จัดการฝ่ายการขนส่ง
-สามารถดูข้อมูลการขนส่งสินค้า
ได้ โดยผ่านอุปกรณ์ ที่ติดตั้งไว้กับพาหนะขนส่ง ว่าถึงเป้าหมายตามเวลาที่กำหนดไว้
ไหม
-สามารถดูสถานการณ์ส่งของได้ทุกเวลา
-ต้องตรวจเช็คสภาพพาหนะ
สินค้า ก่อนทำการขนส่ง
พนักงานฝ่ายขนส่ง
-สามารถทำการเรียกดูระบบการสั่งซื้อ
ขาย ได้แต่ ไม่สามารถทำการ เพิ่ม ลบ แก้ข้อมูล ในฐานข้อมูลได้
การเสนอแนวทางในการนำระบบพัฒนาระบบการขายและการตลาดมาใช้งาน
หลังจากการวิเคราะห์ระบบเดิมและความต้องการของระบบใหม่ที่ทีมงานได้รวบรวมจากผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องดังกล่าว
และผ่านการอนุมัติให้ดำเนินโครงการแล้ว จากนั้น
จงได้จำลองขั้นตอนการทำงานของระบบใหม่มานำเสนอให้ผู้บริหาร
และผู้ใช้ระบบเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและนำมาแก้ไขให้ตรงกับความต้องการ
ของระบบการจัดการขนส่ง
ทางเลือกที่
1
: ซื้อซอฟต์แวร์สำเร็จรูปมีรายละเอียดดังนี้
การประเมินแนวทางเลือกที่ 1
ทางทีมงานได้ทำการประเมินผลแนวทางเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม โดยกำหนดเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) เชิงปริมาณเปรียบเทียบไว้เป็น 4 ระดับ ดังนี้
น้ำหนักเท่ากับ 4 ช่วงคะแนน 100-90 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดีมาก
น้ำหนักเท่ากับ 3 ช่วงคะแนน 89-70 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดี
น้ำหนักเท่ากับ 2 ช่วงคะแนน 69-50 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ พอใช้
น้ำหนักเท่ากับ 1 ช่วงคะแนน 49-30 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ปรับปรุง
ทางทีมงานได้ทำการประเมินผลแนวทางเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม โดยกำหนดเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) เชิงปริมาณเปรียบเทียบไว้เป็น 4 ระดับ ดังนี้
น้ำหนักเท่ากับ 4 ช่วงคะแนน 100-90 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดีมาก
น้ำหนักเท่ากับ 3 ช่วงคะแนน 89-70 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดี
น้ำหนักเท่ากับ 2 ช่วงคะแนน 69-50 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ พอใช้
น้ำหนักเท่ากับ 1 ช่วงคะแนน 49-30 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ปรับปรุง
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่
1
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกและคัดเลือดซื้อ
Software A มาใช้งานเนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการ
มากที่สุด
การประเมินแนวทางเลือกที่ 2
ทางทีมงานได้ทาการประเมินผลแนวทางเลือกว่าจ้างบริษัทภายนอกเพื่อพัฒนาระบบ
ที่เหมาะสม โดยกำหนดเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) เชิงปริมาณเปรียบเทียบไว้เป็น 4 ระดับ ดังนี้
น้ำหนักเท่ากับ 4 ช่วงคะแนน 100-90 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้
ดีมาก
น้ำหนักเท่ากับ 3 ช่วงคะแนน 89-70 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้
ดี
น้ำหนักเท่ากับ 2 ช่วงคะแนน 69-50 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ พอใช้
น้ำหนักเท่ากับ 1 ช่วงคะแนน 49-30 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้
ปรับปรุง
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกและคัดเลือดซื้อ
Software A มาใช้งานเนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการ
มากที่สุด
แนวทางเลือกที่ 3: ใช้ทีมงานเดิมพัฒนาและติดตั้งระบบ
มีรายละเอียดเพิ่มเติมดังตารางต่อไปนี้
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 3
ทางทีมงานพิจารณาแล้วว่า มีขีดความสามารถที่จะพัฒนาระบบได้ตามข้อกำหนดคุณสมบัติทางเทคนิคและความต้องการของผู้ใช้งานตามที่จัดทำโดยใช้ระยะเวลาดำเนินการจำนวนทั้งสิ้น 5 เดือน
และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจำนวนเงินทั้งสิ้น 250,000 บาท ( ค่าเงินเดือน ค่าอุปกรณ์ ค่าล่วงเวลา
ค่าเบ็ดเตล็ด และค่าสำรองฉุกเฉิน )
เปรียบเทียบแนวทางเลือกทั้งสาม
ผลจากการพิจารณาแนวทางเลือกของทีมงานจากทั้ง สาม
แนวทาง จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะผู้บริหารเพื่อพิจารณา
เลือกแนวทางตามที่ได้นำเสนอจากทีมงานพัฒนา
พร้อมข้อเสนอแนะในแต่ละแนวทางเลือกหลักทั้งสาม โดยมีรายละเอียดดังนี้
ผู้บริหารเลือกแนวทางที่ดีที่สุด
หลังจากหัวหน้าทีมงานได้เสนอแนวทางเลือก
โดยจัดทำข้อมูลเปรียบเทียบและข้อเสนอแนะแก่ทีมผู้บริหาร
โดยใช้กฎเกณฑ์การให้น้ำหนัก(คะแนน)ดังตารางต่อไปนี้
สรุปผลการประเมินโดยทีมงานผู้บริหาร
ทางทีมงานผู้บริหารได้พิจารณาตัดสินใจเลือกแนวทางใช้ทีมงานเดิมพัฒนาและติดตั้งระบบ (In-House Development) เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด
นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและความคุ้มค่าในการลงทุนแล้ว
ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีของพนักงานภายในบริษัท
พร้อมทั้งได้กำหนดมาตรการและมอบหมายแก่ผู้บังคับบัญชาโดยตรง
คอยควบคุมดูแลทีมงานพัฒนาให้ดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
ขั้นตอนที่ 2
การเริ่มต้นและวางแผนโครงการ
เป้าหมาย
นำระบบสาระสนเทศเพื่อการพัฒนาระบบฝ่ายขนส่ง
บริษัทเพื่อลดภาระของพนักงานขนส่งและจะได้มีคำนวณการ ขนส่งในระยะเวลา เป้าหมายได้ถูกต้องตามเวลาที่กำหนด
วัตถุประสงค์
โครงการการพัฒนาระบบฝ่ายขนส่ง
มีวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานเพื่อวิเคราะห์ ออกแบบ และพัฒนาให้เป็นระบบพนักงานขนส่งที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้
ได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ
ขอบเขตของระบบ
โครงการพัฒนาระบบการการพัฒนาระบบฝ่ายขนส่งของบริษัทได้มีการจัดทำขึ้นโดยใช้ทีมงามเดิมพัฒนาและติดตั้งระบบมารับผิดชอบโครงการ
พร้อมกันนี้ได้กำหนดขอบเขตของระบบนี้มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
· ระบบจะต้องรองรับการทางานแบบ Multi-User ได้
· ระบบจะต้องใช้งานง่ายและสะดวก
· ระบบจะต้องเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุดต่อการทำงาน
· ระบบจะต้องมีความถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด
· ระบบจะต้องมีความสเถียรต่อผู้ใช้ระบบ
ความต้องการในระบบใหม่
ความต้องการในระบบใหม่ที่รวบรวมมาได้
คือ
·
เพิ่มความถูกต้องในการตรวจสอบระบบของพนักงานขนส่ง
· ความรวดเร็วของระบบใหม่ในการทำงาน
· สามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ
การขนส่งสินค้า และสามารถตรวจสอบข้อมูลได้
· สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
· การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานทุกฝ่าย
เช่น พนักงานขนส่ง
ประโยชน์ที่ได้รับจากระบบใหม่
· บริษัทสามารถทราบว่าการส่งของถึงลูกค้าในระยะเวลาที่ต้องการ
และครบถ้วนได้
· บริษัทมีผลการดำเนินการที่ดีขึ้น
· ขั้นตอนการทำงานของระบบการคลังในบริษัทที่มีความรวดเร็ว
· การทำงานของพนักงานเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
· ลดระยะเวลาในการทำงาน
· บริษัทมีความเชื่อถือ
ในการขนส่งสินค้าต่อผู้บริโภค
แนวทางในการพัฒนา
การพัฒนาระบบของบริษัท อิชิไม่ตัน จำกัด เป็นการพัฒนาระบบในส่วน
ของแผนกฝ่ายขนส่งในส่วนของการทำงานเกี่ยวกับฝ่ายขนส่ง ต่างๆ เช่นเช็ค
พนักงานขนส่งสินค้า
เพื่อลดภาระของฝ่ายขนส่งสินค้าตามความต้องการในระบบใหม่ที่ทีมงานได้รวบรวมจากผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องดังกล่าว
และผ่านการอนุมัติให้ดำเนินโครงการแล้วจากนั้นจึงได้จำลองขั้นตอนการทำงานของระบบใหม่นำเสนอให้ผู้บริหารและผู้ใช้ระบบเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและนำมาแก้ไขให้ตรงตามความต้องการ
1. การค้นหาและเลือกสรรโครงการ
2. การเริ่มต้นและการวางแผนโครงการ
3. การวิเคราะห์ระบบ
4. การออกแบบเชิงตรรกะ
5. การออกแบบเชิงกายภาพ
6. การพัฒนาและติดตั้งระบบ
7. การซ่อมบำรุงระบบ
ขั้นตอนที่ 1 การค้นหาและเลือกสรรโครงการ ( Project
Identification and Selection )
เป็นขั้นตอนในการค้นหาโครงการเพื่อพัฒนาระบบใหม่ให้เหมาะสมกับระบบเดิมหรือให้เหมาะสมกับองค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือต้องการระบบเพื่อนำมาใช้ในการบริหารงานในส่วนที่เกิดความบกพร่องของบริษัท
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดในการทำงานขององค์กร
ดังนั้นจึงได้ยกตัวอย่างบริษัทที่ต้องการพัฒนาระบบคือบริษัท อิชิไม่ตัน จำกัด ข้อมูลดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
ในส่วนของระบบที่ต้องการแก้ไขคือ
· ระบบขนส่ง
ขั้นตอนที่ 2 การเริ่มต้นและวางแผนโครงการ
เป็นขั้นตอนในการเริ่มต้นทำโครงการด้วยการเริ่มต้นจัดตั้งทีมงาน
ซึ่งเราจะต้องกำหนดหน้าที่ให้กับทีมงานแต่ละคนอย่างชัดเจนเพื่อร่วมกันสร้างแนวทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้งานและนอกจากขั้นตอนดังกล่าวแล้วยังมีขั้นตอนอื่นอีกมาก
ที่เกี่ยวข้องซึ่งเราสามารถสรุปกิจกรรมในขั้นตอนนี้ได้ ดังนี้
· เริ่มต้นทำโครงการ
ก่อนเริ่มทำโครงการเราควรศึกษาระบบเดิมในการทำงานก่อน
· กำหนดวัตถุประสงค์หรือทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้
· วางแผนการทำงานของระบบใหม่
ขั้นตอนที่ 3 การวิเคราะห์
1. ศึกษาขั้นตอนการทำงานของระบบเดิม
ดูว่าการทำงานของระบบการคลัง
มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้อย่างไรและเหตุใดจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงระบบเดิม
และระบบที่เปลี่ยนแปลงนี้จะเปลี่ยนในส่วนของระบบการตรวจสอบสินค้า
2. การรวบรวมความต้องการในระบบใหม่จากผู้ใช้ระบบ
ศึกษาหรือสอบถามข้อมูลของระบบเดิมจากพนักงานหรือผู้ใช้ระบบ
3. จำลองแบบความต้องการที่รวบรวมได้
เมื่อเรารวบรวมข้อมูลมาได้แล้ว ก็สามารถออกแบบจำลองดังกล่าวได้
ด้วยวิธีการใดก็ได้ที่นักวิเคราะห์ระบบนำมาใช้ในการทำงานของระบบ
ขั้นตอนที่ 4 การออกแบบเชิงตรรกะ
เป็นขั้นตอนในการออกแบบขั้นตอนการทำงานของระบบในแต่ละส่วนงานหรือแต่ละแผนกของงาน
ซึ่งในการออกแบบระบบ ระบบงานที่ได้ในแต่ละส่วนจะไม่เหมือนกัน
ซึ่งอาจจะมีแบบฟอร์มหรือผลลัพธ์ที่ได้ เมื่อเราวิเคราะห์ขบวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนที่ 5 การออกแบบเชิงกายภาพ
ในขั้นตอนนี้เป็นการทำงานของระบบในส่วนของเทคนิคของโปรแกรมหรืออุปกรณ์ต่างๆ
ที่นำมาใช้ในการปรับปรุงระบบอาจจะเป็นระบบการรายงานข้อมูลสินค้าย้อนหลัง ฐานข้อมูล
เพื่อให้ผู้ใช้งานระบบสามารถเข้าใจขั้นตอนการทำงานมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่ได้ในส่วนนี้จะเป็นแค่การออกแบบหลังจากนั้นจะทำการส่งให้โปรแกรมเมอร์ต่อไป
ขั้นตอนที่ 6 การพัฒนาและติดตั้งระบบ
ขั้นตอนนี้จะนำข้อมูลเฉพาะในส่วนที่ต้องการออกแบบของระบบมาทำการเขียนโปรแกรม
เพื่อให้เป็นไปตามคุณลักษณะที่ต้องการของระบบงานใหม่ อาจนำโปรแกรมที่เขียนสำเร็จรูปแล้วมาใช้งานในระบบก็ได้
หลังจากเขียนโปรแกรมแล้วเราก็ควรทำการทดลองว่าโปรแกรมใช้งานได้เหมาะสมกับการทำงานของบริษัทหรือไม่
ซึ่งในขั้นตอนนี้มีกระบวนการทำงานดังนี้
· เขียนโปรแกรม
· ทดสอบโปรแกรม
· ติดตั้งระบบ
· จัดทำเอกสาร สรุปผลการทำงานของระบบ
ขั้นตอนที่ 7 การซ่อมบำรุงระบบ
อาจจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการปรับปรุงระบบ
เพราะหลังจากได้ระบบใหม่มาแล้ว
เราก็นำเอาระบบที่ได้มานี้ทำการแก้ไขหากระบบที่ได้มาเกิดข้อผิดพลาด
แผนการดำเนินงานของโครงการ
แผนการดำเนินงานของโครงการที่ต้องพัฒนาระบบการขนส่ง
มีส่วนที่เกี่ยวข้องมีดังต่อไปนี้
- ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการ
- ประมาณการใช้ทรัพยากร
- ประมาณการใช้งบประมาณ
- ประมาณระยะเวลาดำเนินงาน
ทีมงานรับผิดชอบโครงการ
ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการที่จะได้รับมอบหมาย
คือ บุคลากรแผนกคอมพิวเตอร์ทั้ง 3 คนจะดำรงตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
ดังต่อไปนี้
- นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ
ตลอดจนเก็บรวบรวมข้อมูลและติดต่อประสานงานระหว่างผู้ใช้กับทีมโปรแกรมเมอร์
จัดทำเอกสารของระบบ ทดสอบโปรแกรมของระบบ และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
- โปรแกรมเมอร์ ทำหน้าที่ในการเขียนและติดตั้งโปรแกรมของระบบ
รวมทั้งทดสอบโปรแกรมและพัฒนาตัวต้นแบบเพื่อสอบถามความคิดเห็นและผลการตอบรับจากผู้ใช้ระบบ
ประมาณการใช้แหล่งทรัพยากร
1. เครื่องแม่ข่าย server จำนวน 1 เครื่อง
2. เครื่องลูกข่าย (Workstation)
จำนวน7 เครื่อง
3. เครื่องพิมพ์ (Printer) 2 เครื่อง
4. อุปกรณ์ต่อพวง 7 ชุด (ตามความเหมาะสม)
ประมาณการใช้งบประมาณ
1. ค่าตอบแทนสำหรับทีมพัฒนาระบบ 120,000 บาท
2. ค่าอุปกรณ์ต่างๆในการดำเนินงาน
75,000 บาท
3. ค่าบำรุงรักษาระบบ
35,000 บาท
รวม 230,000 บาท
ประมาณการระยะเวลาดำเนินงาน
ระยะเวลาดำเนินการจัดทำระบบรายรับ-รายจ่าย ประมาณการว่าจะต้องใช้ระยะเวลา 6 เดือนนับตั้งแต่เดือน มกราคม – มิถุนายน 2558 ซึ่งระยะเวลาที่ประมาณการนี้รวมเพื่อเวลาที่ต้องสูญเสียไป
กรณีมีเหตุไม่คาดคิด
ขั้นตอนที่ 3
การกำหนดความต้องการของระบบ
เมื่อโครงการพัฒนา ระบบการขนส่ง ได้รับการอนุมัติจากการนำเสนอโครงการในขั้นตอนที่ผ่านมา
ดังนั้น จึงเริ่มต้นด้วยความการเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม
เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบบเดิม
ความต้องการในระบบใหม่
ความต้องการในระบบใหม่ที่รวบรวมมาได้
คือ
· สามารถเรียกดูสถานการณ์ส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้
ว่าส่งหรือ ยัง
· สามารถออกใบยืนยันการรับของได้
· สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
· ความรวดเร็วของระบบใหม่ในการทำงาน
ขั้นตอนที่ 4
แบบจำลองขั้นตอนการทำงานของระบบ
แบบจำลองขั้นตอนการทำงานของระบบ
ระบบพัฒนาระบบการขนส่ง บริษัท อิชิไม่ตัน จำกัด
ขั้นตอนการวิเคราะห์ความต้องการของระบบใหม่ (System Requirement Structuring)
อธิบาย Context Diagram ระบบการขนส่ง
จะเป็นการทำงานที่เกี่ยวข้องกับพนักงานและผู้จัดการฝ่ายการขนส่ง
โดยที่
พนักงาน
- พนักงานจะป้อนข้อมูล สถานการณ์จัดส่ง เข้าสู่ระบบจัดส่ง แล้วระบบจะทำการส่ง ข้อมูลการสั่งซื้อสินค้ากลับมา และ พนักงานสามารถทำใบเบิกสินค้า ได้เพื่อนำสินค้าไปส่งให้พนักงาน
- พนักงานจะป้อนข้อมูล สถานการณ์จัดส่ง เข้าสู่ระบบจัดส่ง แล้วระบบจะทำการส่ง ข้อมูลการสั่งซื้อสินค้ากลับมา และ พนักงานสามารถทำใบเบิกสินค้า ได้เพื่อนำสินค้าไปส่งให้พนักงาน
ผู้จัดการฝ่ายการขนส่ง
- สามารถทำการเรียกดูข้อมูลสถานการณ์จัดส่งสินค้าได้ ระบบก็จะส่งรายงานสถานการณ์จัดส่งสินค้า ให้กับผู้จัดการการขนส่ง
- สามารถทำการเรียกดูข้อมูลสถานการณ์จัดส่งสินค้าได้ ระบบก็จะส่งรายงานสถานการณ์จัดส่งสินค้า ให้กับผู้จัดการการขนส่ง
ลูกค้า
- จะได้รับข้อมูลการยืนยัน สถานะ การส่งของจากระบบ
- จะได้รับข้อมูลการยืนยัน สถานะ การส่งของจากระบบ
Data
Flow Diagram Level 0
อธิบาย Dataflow Diagram Level 0
Process 1.0
เป็นระบบการเข้าใช้งานระบบโดยที่จะต้อง Login เข้าใช้งานระบบก่อนจึงเข้าไปใช้งานระบบอื่นๆได้
Process 2.0
ระบบขนส่งนั้น พนักงานจะเพิ่มข้อมูลสถานะเข้าสู่ระบบแล้วระบบจะทำการส่งข้อมูลรายการสั่งซื้อของ ลูกค้าคนนั้นมา แล้วจะนำข้อมูลสถานะที่ถูกเพิ่มไปเก็บไว้ที่ไฟล์ข้อมูล การสั่งซื้อของลูกค้าอยู่
ผู้จัดการฝ่ายขนส่งก็จะสามารถเรียกดูข้อมูลรายงานการจัดส่งได้ Process 3.0
เป็นการแจ้งสถานะไปที่ลูกค้าว่าสถานะนี้ คือ ส่งของในออเดอร์ นี้ให้กับลูกค้าหรือยัง เมื่อพนักงานเพิ่มข้อมูลให้กับออเดอร์ของลูกค้าว่าส่งแล้ว ระบบจะทำการส่งสถานการณ์ส่งของไปให้กับลูกค้า
Process 4.0
เป็นระบบที่มีไว้สำหรับการทำใบเบิกสินค้าออกจากคลังเพื่อนำสินค้าไปส่งยังเป้าหมาย
เป็นระบบการเข้าใช้งานระบบโดยที่จะต้อง Login เข้าใช้งานระบบก่อนจึงเข้าไปใช้งานระบบอื่นๆได้
Process 2.0
ระบบขนส่งนั้น พนักงานจะเพิ่มข้อมูลสถานะเข้าสู่ระบบแล้วระบบจะทำการส่งข้อมูลรายการสั่งซื้อของ ลูกค้าคนนั้นมา แล้วจะนำข้อมูลสถานะที่ถูกเพิ่มไปเก็บไว้ที่ไฟล์ข้อมูล การสั่งซื้อของลูกค้าอยู่
ผู้จัดการฝ่ายขนส่งก็จะสามารถเรียกดูข้อมูลรายงานการจัดส่งได้ Process 3.0
เป็นการแจ้งสถานะไปที่ลูกค้าว่าสถานะนี้ คือ ส่งของในออเดอร์ นี้ให้กับลูกค้าหรือยัง เมื่อพนักงานเพิ่มข้อมูลให้กับออเดอร์ของลูกค้าว่าส่งแล้ว ระบบจะทำการส่งสถานการณ์ส่งของไปให้กับลูกค้า
Process 4.0
เป็นระบบที่มีไว้สำหรับการทำใบเบิกสินค้าออกจากคลังเพื่อนำสินค้าไปส่งยังเป้าหมาย
อธิบาย Dataflow
Diagram Level 1
Process 1.1
เป็นการตรวจสอบการเข้าใช้งานระบบโดยจะทำการตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้งานและรหัสผ่านว่าตรงกับข้อมูลในฐานข้อมูลผู้ใช้หรือไม่
Process 2.1
จะทำการเพิ่มข้อมูลสถานะที่ได้จากพนักงานไปบันทึกลงในฐานข้อมูลว่าออเดอร์ไหนที่จัดส่งของแล้ว
หรือยังไม่ได้จัดส่ง
Process 2.2
จัดทำรายงานเมื่อมีการเรียกดูข้อมูลจากผู้จัดการฝ่าย
แล้วจะทำการดึงข้อมูลจาก ฐานข้อมูล มาทำเป็นรายงาน
Process 3.1
เมื่อพนักงานเพิ่มข้อมูลให้กับออเดอร์ของลูกค้าว่าส่งแล้ว
ระบบจะทำการส่งสถานการณ์ส่งของไปให้กับลูกค้า
Process 4.1
เมื่อพนักงานทำการเพิ่มลบ แก้ไข ข้อมูล
ระบบจะทำการ เพิ่ม ลบ และแก้ไข ข้อมูลลงใน ตารางเบิกสินค้า
Process 4.2
จะทำการดึงข้อมูลจากตารางข้อมูลมาทำการพิมพ์ใบเบิกสินค้า
ขั้นตอนที่5
การออกแบบโปรแกรม
หน้าLogin พนักงานขนส่งสินค้าทำการ
Login เพื่อเข้าสู่ระบบ
เมื่อเข้าสู่ระบบจะมีเมนูให้เลือก
หน้าตาโปรแกรมเมื่อเลือกเมนูการตรวจสอบสถานะการจัดส่ง
โดยในหน้านี้จะแสดงข้อมูลชื่อลูกค้า,เบอร์โทร,ที่อยู่,ชื่อสินค้า,จำนวนและราคา
พร้อมแสดงการจัดส่ง โดยลูกค้าที่แผนกส่งสินค้าใช้แล้วนั้น จะแสดงข้อความว่า
ส่งแล้ว
โดยสถานะดังกล่าวพนักงานจะต้องทำการกดปุ่มยืนยันการขนส่งและเมื่อทำงานสำเร็จแล้วสามารถออกจากระบบได้โดยกดปุ่มออกระบบโดยเมื่อกดแล้วจะกดไปหน้า
Login และโปรแกรมสามารถกดปุ่มพิมพ์ข้อมูลได้
โดยโปรแกรมหน้าของการพิมพ์ข้อมูลตามรูปภาพดังกล่าว
หน้าตาโปรแกรมเมื่อเลือกเมนู ใบเบิกสินค้า จะสามารถเพิ่มลบ แก้ไข
รายการเบิกสินค้าได้ เมื่อพิมพ์จะได้ออกมาเป็นใบเบิกสินค้าดังรูปด้านล่าง
ขั้นตอนที่ 6
การพัฒนาและติดตั้งระบบ
ทีมงานได้จัดทำเอกสารคู่มือการใช้งานโปรแกรมของระบบการขนส่งสินค้า
เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ระบบสามารถเข้าใจการทำงานของโปรแกรมมากยิ่งขึ้น
โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ แนะนำระบบโปรแกรมระบบการขนส่งสินค้า
โปรแกรมระบบการขนส่งสินค้า เป็นโปรแกรมที่ทำซึ่งประกอบด้วยระบบย่อยทั้งหมด 2 ระบบได้แก่
1.ระบบยืนยันสถานะ
การขนส่งสินค้าเพื่อให้ทราบถึงข้อมูลการทำงานส่งสินค้า
2.ระบบพิมพ์ใบรับ
พิมพ์ใบรับสินค้าเพื่อเป็นหลักฐานในการรับสินค้า
การติดตั้งระบบ
ทีมงานเลือกที่จะติดตั้งระบบ ขนานคือการใช้ระบบใหม่และระบบเก่า ไปพร้อมๆกัน
เพราะทีมงานที่พัฒนาระบบได้เล็งเห็นความสำคัญในการดำเนินงาน
เพราะถ้าหากวางระบบใหม่ทั้งหมดทีเดียว อาจทำให้การดำเนินงานเกิด
การขัดข้องได้จึงได้เลือกที่จะติดตั้งระบบแบบขนาน
ขั้นตอนที่ 7
การซ่อมบำรุง
การซ่อมบำรุงนั้นจะขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาระบบว่าระบบนั้นมีปัญหาอะไรบ้างจะอยู่ในความดูแลของผู้พัฒนาระบบมีการดูแลระบบอย่างต่อเนื่องเมื่อระบบมีปัญหาทางผู้พัฒนาระบบอาจจะทำการซ่อมแซมระบบอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ปัญหาในส่วนที่เสียไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น